R410a นั้น เป็น่วนผสมของ HFC-35 และ 120 ในอันตราส่วน 1:1 โดยน้ำยาแอร์แบบ R410a นั้นเป็นน้ำยาแอร์ที่ปราศจากคลอรีน ไม่ทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศโลก และมีประสิทธิภาพดีกว่า น้ำยาแอร์แบบ R-22 ถึง 10% ในอากาศร้อนๆ เพราะฉะนั้นในประเทศไทยที่อุณหภูมิเฉลี่ย 25-35 องศาเซลเซียสนั้น การใช้เครื่องปรับอากาศ ที่ใช้น้ำยาแอร์แบบ R410a นั้นจะช่วยประหยัดพลังงาน และค่าไฟต่อปีได้ดีทีเดียว แถมยังใช้แอร์ได้ทนกว่าน้ำยาแอร์แบบ R-22 ของเดิมอีกด้วยนะ
ข้อดี
1.เย็นกว่า R22
2.กินไฟน้อยกว่า
3.นำพาความร้อนได้ดีกว่า
4.แรงดันสูงกว่าทำให้ใช้คอมขนาดเล็กลง 140-160 psi ขณะเครื่องทำงานเต็มที่ 140-200 psi ขณะเดินเบาในระบบ Inverter
5.ลดโลกร้อนได้ในระดับหนึ่ง
ข้อเสีย
1.น้ำยารั่วต้องปล่อยออกหมดแล้วทำระบบก่อนเติมเข้าไปใหม่ ซึ่งแทนที่จะเสียค่าน้ำยา 20 % กลับต้องจ่าย 100%ครับ
2.ยังไม่เป็นที่แน่นอนว่า มันเป็นสารที่ยังมีค่า GWP (Global warming potential) อยู่สูงที่สุด จึงเป็นสารที่อาจจะยกเลิกในอนาคตอันใกล้นี้อีกที ซึ่ง เหมือนกับว่าเลือกแอร์ตอนนี้ต้อง ใช้สารตัวใหม่ไปเลยดีกว่า
R32 คือ สารทำความเย็น หรือน้ำยาแอร์ เจเนอเรชันใหม่ที่ผลิตขึ้นเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และเพื่อลดการปล่อยสาร CFC ที่ทำลายชั้นบรรยากาศ ตามนโยบายของกรมโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการให้ยกเลิกการใช้สาร R22 แบบขั้นบันไดจนกระทั่งเป็นศูนย์ในปี 2573 ตามที่ไทยได้ลงนามสนธิสัญญาตามพิธีสารมอนทรีออล ที่กำหนดให้ประเทศสมาชิกต้องยกเลิกใช้สารดังกล่าว ซึ่งสารทำความเย็น R32 นี้ส่งผลกระทบต่อภาวะโลกร้อนน้อยกว่าสารทำความเย็นปัจจุบัน R410A ถึง 3 เท่า และยังให้ประสิทธิภาพการทำความเย็นมากกว่า R22 ถึง 60%
ข้อดี
1.คล้ายๆกับ R410a
2.แรงดันสูงกว่า ขนาดคอมเล็กลงอีก ทำให้ประหยัดไป
3.ระบายความร้อนได้ดีกว่า จึงทำให้เย็นกว่า
4.น้ำยารั่วสามารถเติมเข้าไปในระบบได้เลย โดยไม่ต้องปล่อยทิ้งแบบ 410a ทำให้ประหยัดค่าซ่อม
5.ราคาน้ำยาถูกว่า 410a หลายบาทอยู่แต่มาใหม่ๆคงจะแพงเหมือนๆกับ 410a
6.ลดโลกร้อน
ข้อเสียคือ
1.มารถติดฟได้ แต่ไม่ง่ายครับ
สรุปเรื่องสารทำความเย็น
ไทยปรับไปใช้น้ำยา R32 แทนที่จะใช้น้ำยา R410A ที่มีการใช้ในยุโรปและสหรัฐ เพราะน้ำยา R410A มีข้อเสีย คือมีค่า GWP (Global warming potential)
สูงมาก ซึ่งค่านี้เกิดจากความร้อนที่คายออกมาจากสารต่าง ๆ ทำให้โลกร้อน ฉะนั้นหากไทยจะเลิกใช้ R22 มาเป็น R410A จึงไม่มีประโยชน์ รวมถึงการหารือของประเทศชั้นนำต่างเห็นว่า R32 เป็นน้ำยาแอร์ที่ดีที่สุดในขณะนี้”
สำหรับวันที่ 1 มกราคม 2560 จะเริ่มผลิตเครื่องปรับอากาศที่ใช้น้ำยา R32 และห้ามผลิตเครื่องปรับอากาศที่ใช้น้ำยา R22 สำหรับโรงงานทั้ง 13 โรงที่เข้าร่วม แต่ยังสามารถขายได้จนถึงเดือนธันวาคม และในวันที่ 1 มกราคม 2561 ห้ามขายเครื่องปรับอากาศที่ใช้น้ำยา R22 ทั่วประเทศ แต่สำหรับผู้ที่ยังต้องใช้เครื่องปรับอากาศที่ต้องใช้น้ำยา R22 อยู่ยังสามารถใช้ได้ เพราะก็ยังมีการนำเข้าน้ำยาตัวนี้บางส่วนเท่านั้นเอง
หน้าที่เข้าชม | 1,568,414 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,086,631 ครั้ง |
เปิดร้าน | 24 ธ.ค. 2560 |
ร้านค้าอัพเดท | 21 ส.ค. 2568 |